ไขข้อข้องใจ: ค่า SEER แตกต่างกันอย่างไรในแอร์แต่ละประเภท? จะเลือกให้คุ้มยังไงให้รอด!

มาไขความกระจ่างเรื่องค่า SEER ในแอร์กันเถอะ! ทำไมมันถึงสำคัญ? แอร์แต่ละประเภทให้ค่า SEER ต่างกันยังไง? จะเลือกแอร์ที่ใช่ ประหยัดไฟสุดๆ โดยไม่โดนหลอกต้องดูอะไรบ้าง? 9tum จะมาแฉให้เห็นทุกซอกทุกมุม!

ask me คุย กับ AI

by9tum.com

นี่แหละคือจุดสำคัญที่หลายคนมองข้าม! นอกจากเรื่องประหยัดเงินค่าไฟที่เห็นผลชัดเจนแล้ว ค่า SEER ที่สูงยังสะท้อนถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ดีของแอร์ด้วยนะ แอร์ที่มีค่า SEER สูงมักจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า เช่น ระบบอินเวอร์เตอร์ ที่สามารถปรับรอบการทำงานของคอมเพรสเซอร์ให้เหมาะสมกับอุณหภูมิห้องได้ ไม่ใช่เปิดๆ ปิดๆ เหมือนแอร์รุ่นเก่า ซึ่งนอกจากจะกินไฟน้อยแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของคอมเพรสเซอร์ ลดเสียงรบกวน และยังช่วยรักษาอุณหภูมิห้องให้คงที่มากกว่าด้วย สบายตัวขึ้นไหมล่ะ? หรือว่ายังอยากทนกับความร้อนสลับกับความหนาวที่ควบคุมไม่ได้อยู่? อ้อ มีอีกเรื่องที่ชอบทำให้คนสับสน คือค่า EER (Energy Efficiency Ratio) กับ SEER เนี่ย มันเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ค่า EER จะวัดประสิทธิภาพของแอร์ ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือที่อุณหภูมิคงที่จุดเดียว ส่วน SEER จะวัดประสิทธิภาพตลอดช่วงอุณหภูมิที่หลากหลายตลอดทั้งฤดูกาล พูดง่ายๆ คือ SEER มันดูสมจริงกว่า เพราะในชีวิตจริง อากาศมันไม่ได้คงที่เป๊ะๆ ตลอดเวลาใช่ไหมล่ะ? การที่แอร์มีค่า SEER สูง ก็แปลว่ามันสามารถปรับตัวและยังคงประสิทธิภาพได้ดีในสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งก็คือชีวิตจริงที่เราต้องเจอทุกวันนั่นแหละ เข้าใจนะ? หรือว่าต้องอธิบายเป็นภาษาเด็กประถมอีกรอบ?



ส่วนแอร์ระบบธรรมดา หรือที่เรียกว่า Fixed Speed เนี่ย มันก็เหมือนรถยนต์รุ่นเก่าหน่อย คือ พอตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 25 องศา พอห้องเย็นถึง 25 องศา มันก็จะตัดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ไปเลย พออุณหภูมิสูงขึ้นอีกนิด มันก็จะสตาร์ทคอมเพรสเซอร์ใหม่ ทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง และมักจะกินไฟมากกว่า ด้วยเหตุนี้ ค่า SEER ของแอร์ระบบธรรมดามักจะอยู่ในช่วงประมาณ 10-14 เท่านั้น ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับอินเวอร์เตอร์ ถ้าคุณยังใช้แอร์ประเภทนี้อยู่ แล้วบ่นเรื่องค่าไฟ... ก็ไม่รู้จะว่ายังไงดีจริงๆ นะครับ นี่คือยุคของอินเวอร์เตอร์ครับคุณ! แอร์ระบบอินเวอร์เตอร์ส่วนใหญ่จะมีค่า SEER ที่สูงกว่าแอร์ระบบธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด โดยทั่วไปแล้ว แอร์อินเวอร์เตอร์คุณภาพดีอาจมีค่า SEER อยู่ในช่วง 15-25 หรือบางรุ่นท็อปๆ อาจไปถึง 30+ เลยก็มีนะ! ทำไมมันถึงได้ดีขนาดนั้นน่ะเหรอ? ก็เพราะเทคโนโลยีอินเวอร์เตอร์มันทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานอย่างต่อเนื่อง แต่ปรับรอบการหมุนให้เหมาะสมกับความเย็นที่ต้องการ ทำให้ไม่ต้องสตาร์ท-ดับบ่อยๆ ซึ่งเป็นช่วงที่กินไฟมากที่สุดนั่นเอง การลงทุนกับแอร์อินเวอร์เตอร์จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ไม่ต้องมานั่งกุมขมับตอนบิลค่าไฟมาทุกเดือนไงล่ะครับ




Table of Contents

ไขข้อข้องใจ: ค่า SEER แตกต่างกันอย่างไรในแอร์แต่ละประเภท? จะเลือกให้คุ้มยังไงให้รอด!

โอ้โห... มาถึงนี่ก็คงร้อนจนแทบจะละลายกันแล้วสินะ ไม่งั้นคงไม่มานั่งอ่านเรื่องค่า SEER หรอก จริงไหม? เข้าใจเลยๆ ความร้อนเมืองไทยมันไม่เคยปรานีใครจริงๆ แล้วพอความร้อนมาเยือน สิ่งแรกที่เรานึกถึงก็คือเจ้าเครื่องปรับอากาศนี่แหละ แต่พอลองไปเลือกซื้อเท่านั้นแหละ เจอกับคำว่า "SEER" เข้าไป เกิดอาการงงเป็นไก่ตาแตกอีก นี่มันอะไรกัน? ทำไมค่านี้มันถึงได้มีผลกับกระเป๋าตังค์ของเรานักหนา? แล้วไอ้เจ้าค่า SEER ที่ว่าเนี่ย มันแตกต่างกันยังไงในแอร์แต่ละประเภท? หรือว่ามันก็แค่ตัวเลขสวยๆ ที่คนขายเอามาโม้ให้เราฟัง? อย่าเพิ่งโวยวายไปครับ มานี่! 9tum จะมานั่งอธิบายแบบที่ถ้าไม่เข้าใจก็คงต้องไปบวชแล้วล่ะ เพราะนี่คือเรื่องพื้นฐานสุดๆ ของการเอาตัวรอดจากค่าไฟที่พุ่งสูงราวกับจรวด ยิ่งเข้าใจเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งประหยัดได้เร็วเท่านั้น เชื่อสิ ไม่ต้องขอบคุณหรอก ทำด้วยความเบื่อหน่ายล้วนๆ เลย สำหรับแอร์ประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะเน้นที่ความสะดวกในการเคลื่อนย้ายหรือติดตั้งได้ง่ายๆ แต่ในแง่ของประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน มักจะสู้แอร์บ้านทั่วไปไม่ได้ ค่า SEER ของแอร์ประเภทนี้มักจะอยู่ในระดับต่ำกว่าแอร์ติดผนังทั่วไป โดยอาจจะอยู่ในช่วง 8-12 หรือต่ำกว่านั้นก็เป็นได้ สาเหตุก็เพราะการออกแบบที่เน้นความคล่องตัว การระบายความร้อนที่อาจจะไม่สมบูรณ์เท่าแอร์บ้าน และมอเตอร์ที่อาจจะไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงเท่ารุ่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานระยะยาวในบ้านโดยเฉพาะ หากคุณคิดจะใช้แอร์ประเภทนี้เป็นหลัก อาจจะต้องทำใจเรื่องค่าไฟที่อาจจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้หน่อยนะครับ
etc


Cryptocurrency


LLM


tech


Gunmetal_Gray_moden